พูดคุยกับน้องชา (Cha Put)

วันนี้ผมจะมาพูดคุยกับหนุ่มนักวิ่งอัลตร้ามาราธอนที่ค่อนข้างมีสถิติการวิ่งใน facebook ที่น่าสนใจอยู่ตอนนี้ครับ เป็นคนที่มีระยะวิ่งสะสมต่อเดือนเยอะมาก เริ่มต้นจากนักวิ่งทั่วไปสู่ระยะมาราธอนแล้วตอนนี้ก็มุ่งหน้าสู่วิถีอัลตร้ามาราธอนเต็มตัว น้องชา หรือ Cha Put นั่นเองครับ

Tum : สวัสดีครับ วันนี้ได้มีโอกาศมาพูดคุยกับน้องชา (ตอนแรกคิดว่ารุ่นเดียวกันแต่พอเทียบกันแล้วผมแก่กว่า T_T) หรือที่รู้จักกันในหน้าเฟซบุคในนาม Cha Put นักวิ่งอัลตร้าที่สะสมระยะวิ่งได้เหยียบ 700 กม.ต่อเดือนครับ

Tum : ชาเริ่มวิ่งมานานหรือยังครับ

Cha : เริ่มวิ่งมาได้ 4-5 ปีแล้วครับ

Tum : ในช่วง 4-5 ปีนี่เน้นเรื่องการวิ่งอึดวิ่งนานมาตลอดหรือเปล่าครับ

Cha : จริงๆ ก็เพิ่งจะมาเริ่มวิ่งยาวช่วงหลังครับ ผมเริ่มมาสนใจเกี่ยวกับการวิ่งอัลตร้าอย่างจริงจังก็หลังจากงานโคลัมเบียที่เขาไม้แก้วครับ (5 ม.ค. 57)

Tum : ก่อนหน้านี้ก็วิ่งระยะปกติใช่มั้ยครับ วิ่งมาราธอนอะไรพวกนี่

Cha : ใช่ครับ ก่อนหน้านี้ปกติก็วิ่งซ้อม 6-7 กิโลเหมือนนักวิ่งทั่วไปครับ

Tum : ผ่านการวิ่งระยะมาราธอนมาแล้วกี่ครั้งแล้วเวลาเป็นยังไงครับ

Cha : ผมผ่านมาราธอนมาแล้ว 3 ครั้งเวลาประมาณ 4 ชั่วโมงทั้ง 3 ครั้งครับ (ยิ้ม)

Tum : วิ่งมาราธอนเร็วเหมือนกันนะครับ แล้วมาสนใจการวิ่งอัลตร้าได้ยังไงครับ

Cha : ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากพี่ป๊อก (VFF Thailand) กับ พี่สัญญา (คานชัย) ครับ คือพี่เค้าวิ่งเก่งทั้งเร็วและระยะทางก็ไกลด้วย เลยสนใจอยากลองฝึกซ้อมเพื่อวิ่งอัลตร้าดูบ้างครับ

Tum : ปกติเห็นซ้อมวิ่งเดือนนึง 500-600 กิโล มีตารางการซ้อมยังไงบ้างครับ

Cha : แผนซ้อมของผมก็จะแบ่งเป็นวิ่งช่วงเช้ากับเย็น ส่วนใหญ่จะเป็นเช้า 10 กิโลกับเย็น 20 กิโล แล้วก็จะมีวิ่งยาว 1 วัน (เสาร์หรืออาทิตย์) เพราะถ้าวิ่งยาวทีเดียวแล้วร่างกายมันล้าครับมันต้องมีช่วงพัก หลังวิ่งเช้าตอนกลางวันทำงานก็ถือว่าร่างกายผมได้พักแล้ว พอวิ่งเย็นเสร็จกลางคืนนอนก็เป็นการพักอีกครั้ง

Tum : วิ่งก่อนทำงานไม่เพลียเหรอครับ บางทีผมก็วิ่งไปทำงานนะครับ 9 กิโลครึ่ง แล้วช่วงบ่ายนี่บางครั้งมันก็มีแอบง่วงบ้างเหมือนกันนะครับ (ฮา)

Cha : ก็อาศัยกินนมกินน้ำหรือไม่ก็พวกของหวานเอาน่ะครับ (ฮา) ก็ไม่ได้เพลียอะไรนะครับ

Tum : เคยได้ยินว่าเป้าหมายหนึ่งของการวิ่งอัลตร้าคือ TNF100 ปีหน้า มีเวลาเป้าหมายในใจมั้ยครับกี่ชั่วโมงสำหรับระยะ 100 กิโล

Cha : ที่ตั้งไว้ในใจก็จะพยายามไม่ให้เกิน 12 ชั่วโมงครับ

Tum : เหลือเวลาอีกครึ่งปีก่อนจะถึง TNF100 จากที่ซ้อมมาแล้ว 4-5 เดือนนี่คิดว่าจะสามารถทำได้ตามที่ตั้งใจไว้มั้ยครับเวลา 12 ชั่วโมงกับระยะทาง 100 กิโล

Cha : เดี๋ยวขอดูผลงาน 50 กิโลตอนงานโคลัมเบียที่แก่งกระจานก่อนนะครับ (ฮา)

Tum : มีเพื่อนผมหลายคนสงสัยว่าเห็นชาวิ่งตอนเที่ยงด้วย วิ่งเสร็จแล้วไปอาบน้ำที่ไหนครับ

Cha : อ้อ…ที่ทำงานมีห้องน้ำที่อาบน้ำได้ครับ แต่ปกติถ้าผมวิ่งตอนเที่ยงด้วยจะไม่ได้วิ่งเร็วอะไรมากครับ ออกแนววิ่งสลับเดินมากกว่าแล้วก็ไม่ได้วิ่งไกลมากครับ

Tum : สัปดาห์นึงนี่มีวันพัก (Rest Day) กี่วันครับ

Cha : อืม…ไม่มีครับ คือช่วงพักของผมก็คือตอนกลางวันช่วงทำงานกับการนอนตอนกลางคืนแหละครับ

Tum : โอ้…แปลว่า 7 วันนี่ซ้อมวิ่งทุกวันเลย

Cha : ครับ ถ้าไม่ติดธุระอะไรผมก็วิ่งทุกวันครับ

Tum : มีอาการบาดเจ็บหรือเมื่อยล้าบ้างมั้ยครับวิ่งเยอะขนาดนี้

Cha : มีล้ากล้ามเนื้อบ้างครับเพราะเราวิ่งเยอะ แต่อ่านเจอเรื่องการทำ ice bath ในเนทครับ ผมก็เลยแช่น้ำเย็น(สูงครึ่งน่อง) ก่อนนอนครับ มันก็ช่วยได้เยอะนะครับ

Tum : แล้วอาการบาดเจ็บล่ะครับ

Cha : ช่วงนี้ไม่มีอาการบาดเจ็บครับ เคยมีตอนสมัยวิ่งช่วงแรกตรงข้างเข่า (ITBS) แต่ตอนนี้ไม่ค่อยมีปัญหาเกี่ยวกับการบาดเจ็บแล้วครับ

Tum : ทำไมถึงชอบใส่รองเท้าแตะวิ่งครับ

Cha : มันได้ความเย็นครับ เวลาวิ่งเท้าเราจะไม่มีปัญหาเปียกเหงื่อเลย เพราะมันเปิดระบายออกรอบด้านเลย เวลาวิ่งมีลมผ่านตลอดไม่อับครับ

Tum : ใส่รองเท้าแตะวิ่งได้ระยะไกลที่สุดเท่าไหร่ครับ

Cha : ไกลสุดตอนนี้ก็ 57 กิโลครับ (อัพเดทล่าสุดคือ 115 กิโลงาน Ocean to Ocean)

Tum : ใช้อยู่แค่รุ่นเดียวด้วยใช่มั้ยครับ

Cha : ใช่ครับ มันราคาไม่แพงแล้วก็ใส่จนชินมาตั้งแต่แรกแล้วครับ

Tum : คือถ้าเปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะรุ่นอื่นอาจจะวิ่งไม่ออกหรือเปล่าครับ

Cha : คิดว่าน่าจะวิ่งไม่ค่อยออกนะครับ (ฮา)

Tum : ถ้านับตั้งแต่วิ่งมา 4-5 ปีนี่ มีบาดเจ็บมากๆ บ้างมั้ยครับ

Cha : ก็เคยมีตอนงานอัลตร้า 9 ชม.ปีที่แล้วครับ เจ็บ ITBS แล้วฝืนวิ่งต่อก็เลยบาดเจ็บต้องพักนานพอสมควร ก็เป็นการเจ็บมากที่สุดแล้วครับครั้งนั้น ทำให้ผมต้องลดระยะตอนงานโคลัมเบียที่เขาไม้แก้วกับ TNF100 เป็นวิ่งแค่ 10 กิโลแทนครับ ถ้าฝืนวิ่งยาวกลัวจะบาดเจ็บเรื้อรัง

Tum : การวิ่งอัลตร้ามาราธอนนี่เรื่องการกินถือเป็นเรื่องสำคัญเลยนะครับ ชามีการวางแผนการกินก่อนและระหว่างวิ่งไว้ยังไงบ้างครับ

Cha : เรื่องการกินผมก็กินปกตินะครับกินข้าวกินนม ส่วนเวลาวิ่งผมจะวิ่งสลับเดินครับ เรื่องการกินระหว่างวิ่งถ้าเป็นวิ่งซ้อมผมดื่มแต่น้ำอย่างเดียวครับ แต่ถ้าเป็นวิ่งรายการเช่นงานอัลตร้า 10 ชม. ผมจะแวะกินข้าวเหนียวประมาณกำนึงทุก 5 กิโล แล้วก็ดื่มน้ำทุก 2 กิโลครับ ไม่ได้ทานเอนเนอร์จี้เจลกับไม่ได้ดื่มพวกเกลือแร่ครับ

Tum : กินข้าวเหนียวทีละกำไม่จุกเหรอครับเวลาวิ่ง

Cha : (ฮา) ไม่จุกครับเพราะว่าผมวิ่งช้า

Tum : ระหว่างวิ่งมีปัญหาปวดล้าหรือตะคริวมั้ยครับตอนงานอัลตร้า 10 ชม.

Cha : ไม่มีนะครับออกแนวปวดเมื่อยมากกว่า เวลาวิ่งถ้าผมเริ่มตึงหรือเมื่อยผมก็จะหยุดยืดกล้ามเนื้อเลยครับ ซึ่งก็ไม่มีปัญหาตะคริวอะไรพวกนี้นะครับ

Cha : ท่าวิ่งผมมันเหมือนจะกระโดดๆ หน่อย คือผมกระโดดเชือกบ่อยครับแต่ก่อนผมขี่จักรยานเมาเทนไบค์กับกระโดดเชื่อกเป็นประจำ ท่าวิ่งผมจะคล้ายท่าตอนกระโดดเชือก คุณแบงค์ (BBRC) ก็เคยบอกผมนะว่าท่าวิ่งแบบนี้มันใช้แรงเยอะ แต่ผมชินแล้วครับก็เลยไม่ได้เปลี่ยนท่า เปลี่ยนแล้วเดี๋ยววิ่งไม่ออก (ยิ้ม)

Tum : คิดว่าจะรักษาระดับการซ้อมแบบนี้ไปอีกนานมั้ยครับ หรือพอผ่านรายการใหญ่แล้วก็จะค่อยๆ ผ่อนลง

Cha : ก็คงซ้อมอย่างนี้ไปเรื่อยๆ แหละครับ ร่างกายมันจะได้อยู่ตัวเพราะถ้าผ่อนลงนานเกินไป เดี๋ยวร่างกายต้องมาเริ่มใหม่อีกถ้าจะเพิ่มระยะวิ่งอีกครั้ง

Tum : มีอะไรจะฝากถึงเพื่อนๆ ที่สนใจการวิ่งอัลตร้ามาราธอนมั้ยครับ

Cha : ก็ขยันซ้อมเยอะๆ ครับ แล้วก็ดูร่างกายตัวเองด้วยครับว่าไหวแค่ไหนอย่าไปฝืนร่างกายของเราครับ เกิดบาดเจ็บอะไรไปจะได้ไม่คุ้มเสีย พอร่างกายเริ่มอึดขึ้นหรือมีพัฒนาการดีขึ้นแล้วก็ค่อยเพิ่มระยะทางการซ้อมหรือระดับความเข้มข้นของการซ้อมครับ